ต้นฉบับ : Comrade S!ink

บทความนี้เป็นแถลงการณ์ก่อตั้งโครงการ Spiritual Leftism พูดถึงที่มาและความสำคัญหรือภาคทฤษฎีของมิติด้านจิตวิญญาณของฝ่ายซ้าย เราจะมีปฏิบัติการนำร่องผ่านพอดแคสต์ในนาม Spiritual Leftism ก่อน แล้วค่อยพัฒนาไปเป็นปฏิบัติการอื่นๆ ต่อไปในภายหลัง 

บทนำ

ใจความหลักของแนวคิดมาร์กซิสต์ คือ หลักการวัตถุนิยมประวัติศาสตร์ — วัตถุนิยมวิภาษวิธี ที่พวกเราเหล่าสหายทราบกันดีว่าศาสนาไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าเครื่องมือที่ชนชั้นปกครองใช้ครอบงำคนส่วนใหญ่ และ สร้างความชอบธรรมให้กับสถานะเหนือมนุษย์ของชนชั้นนำ
แต่อุดมการณ์ทางการเมือง กับอุดมการณ์ทางศาสนา แท้จริงแล้วคือสิ่งเดียวกัน

เหมือนที่มาร์กซ์เคยกล่าวไว้ว่า “Religion is the sigh of the oppressed creature, the heart of a heartless world, and the soul of soulless conditions. It is the opium of the people.” (ศาสนาคือเสียงถอนหายใจของผู้ถูกกดขี่ หัวใจของโลกไร้หัวใจ และจิตวิญญาณของสภาพไร้จิตวิญญาน เป็นเหมือนยาฝิ่นของมวลประชา)

หากจะเข้าใจคำกล่าวนี้ เราไม่อาจลดทอนมันเหลือแค่ประโยค “ศาสนาคือยาฝิ่นของมวลประชา” ได้ เพราะนั่นอาจทำให้เราเข้าใจไปว่า ศาสนา อยู่ได้แค่เพราะว่ามนุษย์เรายังไม่รู้ว่ามัน “ไม่สมเหตุสมผล” ถ้าหากมนุษย์เรามีเหตุมีผลขึ้น ศาสนาก็จะไร้ความจำเป็น เหมือนที่ สสส. มองว่าคนที่ยังสูบบุหรี่อยู่ คือ คนที่ยังไม่รู้ว่าบุหรี่อันตราย หน้าที่เดียวของเรา คือ ทำให้พวกเขารู้ว่ามันอันตราย 

จากคำกล่าวข้างต้น “the heart of a heartless world and the soul of souless condition” จะเห็นได้ว่าการคงอยู่ของศาสนาเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมที่มีการกดขี่ เมื่อมีการกดขี่ขึ้นย่อมเกิดความทุกข์ยาก ความขาดแคลน ความแปลกแยก ความวิตกกังวลและซึมเศร้า ดังนั้น ผู้คนเลยต้องพึ่งพายาฝิ่น ทั้งในแง่ของการเสพติด และในแง่ของการบำบัดบรรเทารักษาโรคด้วย ถ้าหากเราไม่ดูที่สาเหตุของการเกิดโรค แต่ไปมุ่งโจมตีผู้ป่วยที่ต้องพึ่งพายาฝิ่น เราก็กระทำไปโดยไม่อยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจ และ ไม่ได้ยังประโยชน์ใดๆ ให้แก่สังคมโลก 

สำหรับพวกเราชาวฝ่ายซ้าย ที่มุ่งมั่นแก้ปัญหาจากรากฐาน (radical) เพื่อการปลดแอกตัวเองและผู้อื่น จะต้องเผชิญกับความกดดัน ความเครียด ความท้าทาย และความทรมานต่างๆ จากการล่องแพทวนน้ำในกระแสเชี่ยวนั้นจำเป็นจะต้องมีเครื่องมือทางจิตวิญญาณเอาไว้สำหรับรักษาเยียวยาจิตใจตัวเองและสหาย เพราะพวกเราต่างทราบดีว่า มนุษย์เศรษฐกิจ (economic man) — ตัวแบบมนุษย์ในอุดมคติแนวคิดทุนนิยม/เสรีนิยมใหม่ (นีโอลิเบอรัล) ที่บอกว่า มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเหตุผลและตัดสินใจเลือกกระทำการต่างๆ เพื่ออรรถประโยชน์สูงสุด นั้นเป็นตัวแบบที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง และ ละเลยมิติความเป็นมนุษย์ เพราะ มนุษย์เรามีอารมณ์ ความรู้สึก พวกเราไม่ใช่หุ่นยนต์์อันเป็นร่างทรงของตรรกะคณิตศาสตร์ เรามีส่วนของจิตใจที่เรียกว่า “จิตใต้สำนึก-จิตไร้สำนึก” (sub-conscious-unconscious) นอกจากนี้ยังมีส่วนที่เป็น “จิตใต้สำนึกร่วม” (collective-unconscious) จิตใจที่พ้นไปจากความเป็นปัจเจก จิตเหล่านี้พ้นไปจากความเป็นอัตบุคคลและเหตุผล จิตส่วนที่เป็นเหตุผลจึงเปรียบได้กับยอดภูเขาน้ำแข็งที่โผล่พอพ้นน้ำนิดเดียวเท่านั้น 

ผมเองก็ได้เห็นผู้คนในฝ่ายลิเบอรัลหลายคน ที่เมื่อครั้งปลดแอกจากศาสนาเดิม ความเชื่อเดิมๆ ของตนออกมาได้ พยายามตั้งตนอยู่ในหลักเหตุผลเพียงอย่างเดียว โดยมองว่าตนเองไม่จำเป็นต้องมีสิ่งยึดเหนี่ยวใดๆ นอกจากความเป็นอัตบุคคลของตัวเอง พอได้เจอกับสถานการณ์ผลิกผันในชีวิต เจอกับความเครียดกดดันถาโถม สามารถแบ่งผลออกเป็นสองส่วนใหญ่ๆ ไม่มีสุขภาพจิตย่ำแย่จนป่วย ก็กลับไปนับถือศาสนาเดิม บ้างก็เปลี่ยนศาสนาใหม่ (รวมไปถึงศาสนาไลฟ์โค้ช) และมีจำนวนไม่น้อยเลยที่ละทิ้งจิตวิญญาณการเปลี่ยนแปลงสังคมไป แน่นอนว่าก็มีหลายคนที่สามารถเป็นศาสนิกชนผู้ศรัทธาและเป็นนักต่อสู้เพื่อการปลดแอกไปด้วยได้ แต่เราก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าศาสนาส่วนใหญ่ที่มีอำนาจนำในโลก ล้วนแต่ผ่านการปรับแต่ง บิดเบือน คัดเลือก ตีความ โดยชนชั้นปกครองสมัยใดสมัยหนึ่งเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของชนชั้นผู้กดขี่ 

จะเห็นได้ว่าเราไม่สามารถปฏิเสธการมีเครื่องมือทางจิตวิญญาณได้ การปฏิเสธฝิ่นในทางนามธรรมจะลงเอยด้วยฝิ่นในทางรูปธรรมแทน เช่น หนึ่ง ยาเสพติดที่พ่อค้ายาขายให้ รวมไปถึงการเสพติดพฤติกรรมที่ทำลายสุขภาพร่างกายและจิตใจอื่นๆ สอง ยาเสพติดที่โรงพยาบาลขายให้ หรือในไทยเรียกว่า ยาจิตเวช 

ด้วยเหตุนี้ผมจึงขอเสนอ Spiritual Leftism Manifesto ซึ่งจะเป็นหลักการพื้นฐานในการจัดทำรายการพอดแคสต์ เพื่อนำเสนอวัตถุดิบทางความคิดที่จะนำไปใช้ก่อร่างสร้างเครื่องมือทางจิตวิญญานของฝ่ายเรา และเป็นบันไดให้ฝ่ายซ้ายรุ่นหลังหรือรุ่นเดียวกัน ที่มีความเฉียบแหลมมากกว่า เล็งเห็นจุดอ่อนแล้ววิพากษ์ข้อเสนอนี้ ซึ่งจะทำให้ได้ข้อเสนอใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อการต่อสู้ของพวกเรายิ่งๆ ขึ้นไป 

Spiritual Leftism Manifesto

  • Secularism

หรือก็คือ “โลกวิสัย” หมายความว่า เราจะต้องต่อต้านการสถาปนาศาสนาใดๆ ให้เป็นศาสนาประจำชาติ ปกป้องเสรีภาพของคนที่เชื่อต่างจากเรา ให้คุณค่ากับประชาธิปไตย ความยุติธรรม เหนือศีลธรรมทางศาสนาหรือความเชื่อใดๆ จะต้องปลดเครื่องมือทางการเมืองที่เรียกว่า “ศาสนา” ออกจากน้ำมือชนชั้นปกครองในทุกวิถีทาง

  • Historical materialism

เข้าใจและนำศาสนาไปปรับใช้โดยวิธีวัตถุนิยมประวัติศาสตร์ — พิจารณาสภาพทางวัตถุที่เอื้อให้เกิดความเชื่อใดๆ และประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของความเชื่อนั้นๆ ปัจจัยด้านเศรษฐกิจทางการเมืองที่เข้ามาส่งอิทธิพล เพราะไม่มีสิ่งใดเป็นอิสระไปจากบริบทของตน ในเวลานั้นๆ สถานที่นั้นๆ 

  • Immanentism

มองว่ากฏหมาย ระบบระเบียบ ศีล ค่านิยมต่างๆ ไม่ใช่คำสั่งของมนุษย์ต่างดาวหรือเทพเจ้าอันมีอำนาจเหนือโลก หากแต่เป็นการเรียนรู้และสะสมของมนุษยชาติ และด้วยฝีมือของมนุษย์ผู้ถูกกำหนดด้วยบริบทของตน ย่อมไม่สามารถอ้างได้ว่าระบบคุณค่าที่ตนเข้าใจจะครอบคลุมเหนือกาลเวลาและสถานที่ คุณค่าและความเชื่อต่างๆ จึงไม่ถึงกับเป็นสิ่งที่ “ไม่จริงเลย” หากแต่มันจริงแค่ในบริบทนั้นๆ คุณค่าใดๆ ก็ตามควรเกิดขึ้นจากการตกลงกันของคนในชุมชน ณ บริบทนั้นๆ ไม่ใช่จากการอ้างอิงอำนาจภายนอก

  • Customicism

ด้วยความที่ไม่มีสิ่งใดหรือใครที่เป็นอิสระจากบริบทของตัวเอง ดังนั้นเครื่องมือทางการเมืองและ เครื่องมือทางจิตวิญญาณจะต้องมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ให้เข้ากับสถานที่และยุคสมัยที่จะใช้ปฏิบัติ ดังนั้นเราจึงควรภูมิใจในการเป็น “ลัทธิแก้” ที่ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์จริงของคนในชุมชนและ เงื่อนไขทางวัตถุนิยมประวัติศาสตร์มากกว่าการอ้างอิงความถูกต้องจากคัมภีร์ 

  • Collectivism

หากเราพิจารณาจุดร่วมของแต่ละอุดมการณ์หรือศาสนาแล้ว จะเห็นได้ว่ามีคุณสมบัติหนึ่งที่พบเห็นได้บ่อยคือ การลดความเป็นอัตตา ตัวตน ลดการสะสมทุน ลดความเห็นแก่ตัว สนับสนุนความเสียสละ มีน้ำใจ ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการลึกๆ ของมนุษย์เรานั่น คือ การมีคอมมูนหรือชุมชน-สถานที่ที่รู้สึกเหมือนเป็นบ้าน ที่ที่ตัวเองได้รับการยอมรับ ได้รับความช่วยเหลือ รวมถึงการได้มีส่วนช่วยเหลือคนอื่นๆ ต่อไป ระบบทุนนิยมและชนชั้นปกครองทำลายความเป็นชุมชนของมนุษย์เราลงไปให้เหลือเพียงจิตสำนึกแบบผู้ประกอบการหรือจิตสำนึกแบบปัจเจกนิยม นำมาซึ่งสภาวะแปลกแยกและความเจ็บป่วยทางจิตใจ จุดมุ่งหมายทางจิตวิญญาณของเราชาวคอมมิวนิสต์ หากจะพึงมีคือจุดมุ่งหมายในการรวบรวมผู้คน เยียวยา ช่วยเหลือ และ สร้างสรรค์วิธีในการอยู่ร่วมกันของมนุษย์ในแบบที่ก้าวหน้าขึ้นไปกว่าเดิม

  • Psychosocial 

หลายครั้งแนวคิดของจิตวิทยากระแสหลัก มักจะไม่พูดถึงปัจจัยด้านสังคม-เศรษฐกิจ-การเมือง ที่ส่งผลต่อสุขภาพจิตของผู้คน ทำให้ปัญหาสุขภาวะทางจิตถูกมองว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล ที่แต่ละคนต้องไปหาทางแก้กันเอาเองหรือไม่ก็เป็นเพราะปัจเจกคนนั้นๆ มีทัศนคติที่ไม่ดี มีสารเคมีในสมองที่ไม่ดี ซึ่งการทำความเข้าใจแบบนี้ทำให้ไม่เห็นปัญหาที่ต้นเหตุ เปรียบได้กับหากน้ำประปาในเมืองๆ หนึ่งมีสารพิษปนเปื้อน การแก้ปัญหาโดยการให้ชาวเมืองไปซื้อยาแก้พิษมาทานเป็นประจำ ย่อมไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ปัญหาสุขภาพจิตเองก็เช่นกัน



ผมเชื่อว่าการปฏิวัติไม่ได้เกิดขึ้น ณ วันที่คุกบาสตีลถูกทำลาย
ไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อ เลนิน อ่านแถลงการณ์ก่อตั้งสหภาพโซเวียต
ไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อ ณ วันที่ 27 มิถุนายน 2475 เวลาย่ำรุ่ง
ดอกของต้นไม้ใดๆ ไม่อาจผลิบานได้โดยปราศจากรากและลำต้น
การเริ่มต้นของการปฏิวัติ จึงไม่ใช่วันที่ระบบเก่าถูกทำลาย
แต่เป็นวันที่เครื่องมือในการสถาปนาระบบใหม่ได้ถูกคิดค้นขึ้น