ที่มาภาพ: BBC

มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 200 คน และอีกหลายพันคนถูกจับกุมนับตั้งแต่การรัฐประหารในพม่าเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2021 ประชาชนพม่ากำลังต่อสู้เพื่อชีวิตของพวกเขา ด้วยการเผชิญหน้ากับรัฐบาลทหารผู้โหดเหี้ยม

เมื่อการประท้วงจุดติดขึ้นมา มันจะดำเนินต่อไป ในทุกๆ วันผู้คนต่างลงไปยังท้องถนน รักษาระดับการชุมนุมประท้วง ต่อต้านคำสั่งของกองทัพที่ห้ามไม่ให้มีการรวมตัวกันมากกว่า 5 คนขึ้นไป และข้าราชการจำนวนมากก็ปฏิเสธไม่ไปทำงาน เป็นความพยายามในการลดทอนศักยภาพของรัฐ

ในยามค่ำคืน กองทัพและตำรวจก็เริ่มตระเวนไปยังบริเวณรอบๆ เพื่อจับกุมแกนนำประท้วง ทำให้เหล่าผู้ชุมนุมเริ่มทำการจัดตั้งชุมชนป้องกันตนเอง แม้แต่ผู้สูงอายุก็ยังมีส่วนร่วมในกระบวนการเหล่านี้ พวกเขาคอยสอดส่อง และเตือนภัยด้วยการเคาะหม้อหรือกะทะเมื่อเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่มาป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ นั้น

พวกเขาเรียกปฏิบัติการนี้ว่าขบวนการอารยะขัดขืน ซึ่งมีเป้าหมายในการหยุดยั้งอำนาจในการปกครองของรัฐบาล ประชาชนเข้าร่วมแคมเปญนี้ด้วยวิธีการต่างๆ และมีพื้นเพหลากหลาย ตั้งแต่นักเรียนวัยรุ่นไปจนถึงชาวนาผู้สูงอายุ ตั้งแต่นักเสรีนิยมไปจนถึงนักอนาธิปัตย์ราดิคัล ตั้งแต่ชาติพันธุ์กลุ่มน้อยไปจนถึงชาวพม่า พวกเขาสร้างพันธมิตรระหว่างกันและกันเพื่อต่อสู้กับรัฐในทุกวิธีที่เป็นไปได้

นักวิเคราะห์ทางการเมืองหลายคนบอกว่ารัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์นั้นมีต้นแบบมาจากการรัฐประหารของประยุทธ์ในปี 2014 กองทัพพม่าพยายามที่จะทำ “รัฐประหารเงียบ” เพื่อไม่ให้มีการขัดขวางจากประชาชน และธุรกิจต่างๆ ในประเทศสามารถดำเนินไปได้ตามปกติ พวกเขายังบอกอีกว่าจะจัดการเลือกตั้ง ”ภายในหนึ่งปี” (เหมือนที่ประยุทธ์เคยบอกไว้เลยนี่นา) ประชาชนพม่าจดจำคำโกหกนี้ได้อย่างรวดเร็ว และตัดสินใจว่าจะไม่ให้มันเป็นเช่นนั้น


เนื้อความต่อไปนี้มาจากการสนทนากับนักเคลื่อนไหว 3 คนในย่างกุ้ง

หมายเหตุ: นักเคลื่อนไหวที่เป็นนักศึกษา นักเคลื่อนไหวฝ่ายซ้าย และนักเคลื่อนไหวที่จัดการป้องกันตัวในชุมชนชาติพันธุ์กลุ่มน้อย ซึ่งทุกคนขอไม่ออกชื่อ พวกเขากลัวว่าจะเปิดเผยข้อมูลมากเกินไป และถ่อมตนมากเกี่ยวกับความเกี่ยวข้องของพวกเขาในความเคลื่อนไหว

ในตอนนี้คือคนประเภทไหนบ้างที่มาร่วมประท้วง

ส่วนใหญ่ก็เป็นนักศึกษาและแรงงานรุ่นใหม่ที่มาสู้กับรัฐ ไม่ใช่แค่คนชาติพันธุ์พม่า ชนกลุ่มน้อยทางชาติพันธุ์ก็ได้มาเข้าร่วมตั้งแต่แรก (มีคนเข้าร่วมการประท้วงจากทุกด้านของสังคม โดยเฉพาะราชการฝ่ายพลเรือน แต่ไม่ได้มาร่วมด้วยวิธีลงถนนเสมอไป)

เล่าให้ฟังถึงบทบาทของผู้หญิงในความเคลื่อนไหวหน่อยได้ไหม

ผู้หญิงมีบทบาทที่สำคัญมาก ทั้งไปอยู่แนวหน้าและเป็นผู้นำในการจัดประท้วง พวกเขาได้มีส่วนร่วมและคอยนำทุก ๆ แง่มุมของการต่อสู้มาตั้งแต่แรก

เล่าให้ฟังถึงบทบาทของสหภาพแรงงานในการประท้วงหน่อยได้ไหม

ก่อนที่รัฐบาลจะเริ่มใช้ความรุนแรงเป็นวงกว้าง เราสามารถเห็นการมีอยู่ของสหภาพแรงงานได้อย่างชัดเจนในการประท้วง ด้วยธงและอื่น ๆ แต่ว่าตั้งแต่มีการใช้ความรุนแรงเป็นวงกว้าง ก็เริ่มเห็นน้อยลง (เพราะไม่อยากให้รัฐระบุตัวได้) แต่เรามั่นใจว่ายังมีสมาชิกสหภาพเป็นจำนวนมากในการต่อสู้ของเราอยู่ เขาแค่ไม่ระบุตัว

ได้คิดถึงการติดอาวุธบ้างไหม

พวกเรากำลังพายามติดอาวุธให้กับเหล่าผู้คนแต่ว่าก็มีขีดจำกัดในสิ่งที่เราทำได้ พวกเราอ่อนแอในด้านนี้มาก ๆ และไม่พร้อมสำหรับการต่อสู้นี้ (ต่อกรกับความรุนแรงในวงกว้าง) ถึงแม้ว่าตั้งแต่ก่อนรัฐประหารจะเริ่มขึ้นหลาย ๆ คนได้คาดการณ์ไว้แล้ว

คุณคิดจะเข้าร่วมกลุ่มกองกำลังติดอาวุธในแถบชายแดนในอนาคตไหม ถ้าการประท้วงครั้งนี้ไม่สำเร็จ

พวกเราไม่มีแผนที่จะเข้าร่วมกองกำลังติดอาวุธ อาจจะมีคนที่ไปหลบกับพวกเขา แต่เราเรียนรู้จากความพยายามครั้งก่อน ๆ ในการพยายามปฏิวัติในพื้นที่ห่างไกลแล้วว่ามันไม่ได้ผล พวกเราต้องอยู่ที่แนวหน้า (ในเมือง) เพื่อไปให้ถึงชัยชนะ

คุณสามารถทำแคมเปญนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน

พวกเรากำลังพิจารณาแรงผลักดันของแคมเปญนี้และเริ่มวางแผนระยะยาวแล้ว เราไม่สามารถปล่อยให้มันลดความเร็วลงได้แล้ว เราได้จัดการป้องกันตัวในชุมชนและกลุ่มปกครองตนเองเพื่อให้การปกครองโดยทหารไม่กลับมาอีก เราไม่สามารถบอกได้ล่วงหน้าว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะไปต่อได้อีกนานแค่ไหน แต่ยิ่งมันนานขึ้นเท่าไหร่ เราก็มีเวลามากขึ้นที่จะจัดตั้งระบบและสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนมากขึ้นเท่านั้น

คุณมีข้อเรียกร้องอะไรบ้างต่อรัฐบาลทหาร

รัฐบาลทหารและระบบราชการของมันจะต้องถูกทำลาย เหล่าทหารต้องกลับไปยังค่ายของพวกเขาและถูกลงโทษตามอาชญากรรมที่ได้ก่อไว้

ในความคิดเห็นของคุณ มีการแทรกแซงจากต่างชาติบ้างไหม

ไม่คิดว่านะ แต่ว่าก็มีความเป็นไปได้ อาจจะเป็นจีนแต่เราก็ไม่รู้จริง ๆ สิ่งที่สำคัญคือรัฐบาลต่างชาติกำลังประณามรัฐประหารอยู่หรือเปล่า

ชาวต่างชาติสามารถช่วยอย่างไรได้บ้าง

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่โลกเข้าใจสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น คุณสามารถบริจาคไปยัง Mutual Aid Myanmar (กองทุนการหยุดงานเพื่อประท้วง) เราเชื่อใจพวกเขา แต่เราไม่ได้รับเงินทุนจากพวกเขาในตอนนี้ พวกเรากำลังพยายามจัดตั้งวิธีบริจาคโดยตรงเข้าสู่การหยุดงานเพื่อประท้วง

มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการประท้วงอะไรบ้างไหมที่คุณอยากจะชี้แจง

ไม่รู้จะพูดอะไรดี (ส่วนใหญ่พวกเขาจัดตั้งประท้วงต่าง ๆ ที่ลงถนนและไม่ได้เช็คโลกออนไลน์มากเท่าไหร่) แต่ช่วยสนับสนุนการต่อสู้ของพวกเราและการต่อสู้ของผู้ถูกกดขี่ทุกกลุ่มในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยนะ