
ทำความเข้าใจเหตุกราดยิงในโรงเรียน
แม้ว่าเหตุกราดยิงสังหารหมู่ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จังหวัดหนองบัวลำภู จะเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2565 แต่ทว่ากลับเหมือนถูกลืมเลือนไปจากหน้าสื่อโซเชียลมีเดียอย่างรวดเร็ว เหตุด้วยปริมาณข่าวสารจำนวนมาก ถึงอย่างนั้นผมก็ยังคิดว่าเหตุการณ์กราดยิงนั้นเป็นปรากฏการณ์ทางสังคมที่มีความแปลกประหลาด สะเทือนขวัญและยังคงมีประเด็นที่ไม่ถูกพูดถึงอยู่อีกมาก
มิน ลัต แยะก่าว : ผู้บุกเบิกลัทธิคอมมิวนิสต์อิสรนิยมในพม่า
มิน ลัต แยะก่าวหรือที่รู้จักในนาม “Min Latt Ye Khaung” นักภาษาศาสตร์ชาวพม่า เป็นหนึ่งในนักศึกษาชาวพม่าสามคนแรกที่ได้ไปศึกษาเล่าเรียนที่กรุงปราก (Prague) ในช่วงทศวรรษที่ 1950 เขาเป็นนักเคลื่อนไหวที่ทรงอิทธิพลและเป็นผู้นำนักศึกษาในช่วงปี ค.ศ. 1947-48 กล่าวโดยสรุปคือ มิน ลัต แยะก่าว เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกแนวคิดคอมมิวนิสต์อิสรนิยมในพม่า ที่ซึ่งฝ่ายซ้ายส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากแนวคิดเหมาอิสม์หรือไม่ก็สังคมประชาธิปไตย ด้วยการต่อต้านสิ่งที่เรียกว่าประชาธิปไตยรวมศูนย์และระบบราชการตามแบบมาร์กซิสม์-เลนินนิสม์และเหมาอิสม์ ตลอดจนรัฐบาลเผด็จการอำนาจนิยมของเขา
คำประกาศก่อตั้งโครงการฝ่ายซ้ายแห่งจิตวิญญาณ ตอนที่ 2
โลกเสรีนิยมใหม่ได้ออกสิ่งประดิษฐ์อันเป็นกลไกต่างๆ มากมายเพื่อมาขูดรีดพลังแรงกายแรงใจและควบคุมชีวิตของผู้คน ทำกำไรมหาศาลให้แก่ระบบทุนนิยมด้วยการเปลี่ยนทุกคนให้เป็นแรงงาน หนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ที่เปลี่ยนให้ทุกคนเป็นแรงงานคือทุนนิยมของการสื่อสาร หมายถึง เทคโนโลยีโครงข่ายที่ขั้นกลางระหว่างผู้คน
คนรวยต่างหากที่กำลังเผาโลก
งานศึกษาหลายชิ้นชี้ว่า ความเหลื่อมล้ำที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นั้นเกี่ยวพันกับการล้างผลาญโลกอย่างใกล้ชิด เราไม่อาจกอบกู้โลกไว้ได้หากเราไม่ยอมเผชิญหน้ากับกลุ่มคนรวยที่กำลังพาพวกเราลงเหวสู่หายนะ!
มนุษย์ล่องหน
คุณบริโภคแรงงานที่มองไม่เห็นในขณะเดียวกันแรงงานที่คุณขายออกไป ก็มิอาจมองเห็นได้เช่นกัน พวกเราล้วนแปลกแยกจากสิ่งที่เราผลิตและสิ่งที่เราบริโภค จะเป็นไปได้บ้างไหม ที่เราจะมองทะลุม่านหมอกแห่งความยุ่งเหยิงไปเจอ ”แรงงาน” ที่ถูกซ่อนไว้ได้สักที
คำประกาศก่อตั้งโครงการฝ่ายซ้ายแห่งจิตวิญญาณ ตอนที่ 1
บทความนี้เป็นแถลงการณ์ก่อตั้งโครงการ Spiritual Leftism พูดถึงที่มาและความสำคัญหรือภาคทฤษฎีของมิติด้านจิตวิญญาณของฝ่ายซ้าย และ Manifesto ของเรา จะนำร่องผ่านพอดแคสต์ในนาม Spiritual Leftism กันก่อน รอติดตามปฏิบัติการอื่นๆ กันได้เลย
A Call For Spiritual Leftism
Spirituality provided us answers to these questions on suffering, which in a sense eased it. We are still suffering, the grounds on which we lay our pain are largely claimed by science and doctrinal organised religion– more often than not organised around the capital and capitalist state. Scientists tell us our bodies are sick, or our minds are mentally ill. While the monks tell us to devote ourselves to doctrine. Indeed, scientists follow a (supposedly secular) doctrine of their own.
Periphery, Core & Reconciliation
Here, we sit on the event horizon between core and periphery, if there is anywhere it can be reconciled, surely it must be here. Not just Thailand, but other regions that fall into the same global economic bracket of the middle-income trap. Can there be any interaction between the periphery and the core?
A Short History of LAWAN – Malaysia
The Lawan (to fight or oppose) Protests will be remembered by many in Malaysia as a critical voice of dissent during this tumultuous period of our history. Its capacity to mobilise and execute so many actions in such a short period of time is certainly remarkable. More so, is the engagement and participation that was engendered from outside activist circles. Its demobilisation and possible demise should also be understood from the perspective of wider failures within progressive and left movements.

[TH] พอดคาสต์ พูดคุยไปเรื่อยผ่านมุมมองฝ่ายซ้าย มีจุดออกตัวที่หลากหลายไม่จำกัดหัวข้อ
[EN] Discussions and examinations of Thailand and the surrounding region from a radical perspective.
จับม็อบก็ไม่ใช่ รอเลือกตั้งก็ไม่โดน เราควรทำยังไงกันดี?
ในปัจจุบันฝ่ายมวลชนฝั่งประชาธิปไตย มีความขัดแย้งกันจนเป็นปรากฏการณ์กึ่งด่า กึ่งดีเบท กันในโลกออนไลน์ในประเด็นที่ว่า “อะไรเป็นสิ่งที่เราควรจะทำในตอนนี้?” สืบเนื่องมาจากกระแสการทำม็อบที่ซบเซาลง แม้จะจัดการเดินขบวน ตั้งเวที ชูป้าย ศิลปะแสดงสดหรือ performance arts ฯลฯ แต่ผลที่ตามมา เหล่าแกนนำกลับโดนจับ มีคดีติดตัวกันมากมาย ทางคฝ. เองก็ยังสามารถเบิกงบประมาณมาปราบม็อบได้ตลอดทั้งปีไม่มีหมด สามารถสลับทั้งตำรวจและทหารมาปราบปรามได้ เหตุการณ์นี้พิสูจน์แล้วว่าม็อบที่ไม่มีเส้น เหมือน ม็อบพันธมิตร กปปส. ไม่มีกองทัพ ไม่มีกลไกรัฐ ไม่มีวังหนุนหลัง ชุมนุมให้ตายยังไงก็โค่นรัฐบาลไม่ได้ แถมโดนสลายได้ง่ายเหมือนแกะถุงขนมอีก
คำถามของป้าข้างบ้าน
ปรากฏการณ์ “ป้าข้างบ้าน” จึงไม่ได้มีสาเหตุเริ่มต้นมาจากตัวของ “มนุษย์” แต่เป็นปัญหาที่เริ่มมาจาก “ยุคสมัย” หรืออีกนัยหนึ่ง สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ “นิสัย” ของ “ป้าข้างบ้าน” หากทว่าเป็น “สันดาน” ของ “ระบบทุนนิยม” ถ้าจะว่ากันแรง ๆ แล้ว ในความเป็นจริง “ป้าข้างบ้าน” ไม่ได้เป็นคนที่มี “ความเสือก” มากไปกว่ามนุษย์คนอื่น ๆ ในสังคม แต่จริง ๆ แล้วสิ่งที่ “เสือก” กับตัวเราคือ “ระบบทุนนิยม” ต่างหาก
เจมส์ คอนนอลลี: ราชวงศ์อังกฤษคือตัวอย่างของการหมิ่นหยามประชาธิปไตย
ราชวงศ์อังกฤษคือสิ่งตกค้างของทรราชย์ เป็นสิ่งย้ำเตือนอันดีเยี่ยมให้นึกถึงสังคมลำดับชั้นและการปล้นชิง อย่างที่ เจมส์ คอนนอลลี (James Connolly) นักสังคมนิยมชาวไอริช ได้เขียนไว้ในปี 1911 ว่า เหล่าราชวงศ์มีอยู่เพื่อบรรดาผู้กดขี่ในสังคม อาทิ นายทุนและเจ้าที่ดิน ไม่ได้มีอยู่เพื่อชนชั้นแรงงาน
“ถึงสหายแรงงานทั้งผอง…”
Periphery, Core & Reconciliation
Here, we sit on the event horizon between core and periphery, if there is anywhere it can be reconciled, surely it must be here. Not just Thailand, but other regions that fall into the same global economic bracket of the middle-income trap. Can there be any interaction between the periphery and the core?
Capitalocene – การค่อย ๆ ล่มสลายลงของสิ่งแวดล้อม
ระบบทุนนิยมค่อย ๆ พรากชีวิตออกไปจากโลก มหาสมุทร และป่าเขา เรากำลังเผชิญกับภูมิประเทศรกร้างว่างเปล่าที่ไร้ซึ่งชีวิต โลกกำลังล่มสลายลงอย่างช้า ๆ จนเราแทบไม่ทันสังเกต แต่เมื่อคุณตระหนักถึงสภาวะเส้นฐานขยับแล้ว ก็ยากที่จะมองผืนป่าในแบบเดิมได้อีก มันคือความรู้สึกของการไม่ขยับเขยื้อนและ *ความว่างเปล่า* แบบที่เราสัมผัสได้ซึ่งกำลังคลืบคลานเข้ามาหาเราอยู่
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับรัฐนิยมและชาตินิยม
ทุนนิยมก็ได้รับการอำนวยความสะดวกและไกล่เกลี่ยโดยรัฐ ทุกวันนี้ระบบทั้งสองต่างพึ่งพาอาศัยกันและกัน ลัทธิชาตินิยม ทำหน้าที่เป็นเชื้อเพลิงให้กับรัฐซึ่งเป็นชุมชนจินตภาพ ที่ซึ่งเราเชื่อมโยงถึงกันผ่านสายใยผูกพันธ์ภายในเส้นเขตพรมแดนที่แน่นอนของรัฐ ในหลาย ๆ ทางเราทุกคนต่างถูกผูกมัดด้วยการคิดแบบรัฐนิยม ซึ่งทำให้เรามองไม่เห็นความลึกตื้นหนาบางของความเป็นจริง มองข้ามความเป็นจริง ความแตกต่าง และความสลับซับซ้อนของความสัมพันธ์ทางสังคมและทางเศรษฐกิจของพวกเราเอง
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจักรวรรดินิยม
ในขณะที่มีเศรษฐี มหาเศรษฐี และนายทุนที่ฉ้อฉลมากมายในอดีตประเทศใต้อาณานิคมและซีกโลกใต้ ท้ายที่สุดแล้วหากเราดูที่โครงสร้างทุนโลก จะเห็นได้ชัดเจนว่า สุดท้ายความมั่งคั่งก็ยังคงมุ่งหน้าไปยังอดีตเจ้าอาณานิคมและผู้รับช่วงต่อของประเทศเหล่านั้นในซีกโลกเหนือ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นซากเดนของจักรวรรดิที่ยังคงไม่ได้ตายจากไปไหน เป็นสิ่งที่ประกอบขึ้นมาเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ยังคงมีอยู่ทั่วโลกทุกวันนี้
ว่าด้วยการห้ามวิจารณ์ ‘เจ้านาย’
“อย่าวิจารณ์นายจ้าง ถ้าทำงานกับเขาแล้วไม่มีความสุขก็ลาออกไปซะ” ผมยกประโยคข้างต้นขึ้นมาด้วยความรู้สึกไม่เห็นด้วยอย่างแรงกล้า และผมก็ได้แสดงความคิดเห็นต่อประโยคดังกล่าวเพื่อเป็นข้อโต้แย้งในความไม่เห็นด้วยของตัวผมเองและเพื่อเปิดประเด็นชักชวนมิตรสหายพูดคุยถกเถียงแสดงความคิดเห็นอันเป็นกิจวัตรปกติของพวกเราอยู่แล้ว
ยิ้มรับการกดขี่ในคราบความกตัญญู
เมื่อไรก็ตามที่วันแม่หวนกลับมา เรามักจะนึกถึงกิจกรรมสมัยประถมที่เราต้องกราบแม่ เพลงค่าน้ำนม อิ่มอุ่น ทำให้เรานึกถึงความรักความอบอุ่นที่แม่มีให้เรา บุญคุณของแม่ที่อุ้มท้องและเลี้ยงดู และครอบครัวที่มีแม่รักใคร่กลมเกลียวกัน แต่หากมองโดยปราศจากอุดมการณ์ที่รัฐพยายามสร้างขึ้นให้บทบาทความเป็นแม่และความสัมพันธ์แบบครอบครัวดู หอมหวาน แม่นั้นก็คือแม่งานหญิงที่โดนระบบเศรษฐกิจแบบครอบครัวขูดรีดและต้องรู้สึกแปลกแยกออกจากความเป็นมนุษย์นี่เอง
A Short History of LAWAN – Malaysia
The Lawan (to fight or oppose) Protests will be remembered by many in Malaysia as a critical voice of dissent during this tumultuous period of our history. Its capacity to mobilise and execute so many actions in such a short period of time is certainly remarkable. More so, is the engagement and participation that was engendered from outside activist circles. Its demobilisation and possible demise should also be understood from the perspective of wider failures within progressive and left movements.
ทำไมแนวคิดการเปลี่ยนจากภายใน(ระบบ)จึงไม่เข้าท่า ?
ผมเคยได้ยินหลายคนบอกว่า จะเข้าไปฝังตัวในระบบราชการหน่วยต่าง ๆ ตามแต่ที่ตนสนใจและมีความถนัด บ้างก็จะสะสมทุนเพื่อวันนึงพอมีเงินแล้ว ก็จะใช้จ่ายเงินนั้นในการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง บ้างก็ตั้งใจจะเป็นนักการเมืองเองไปเลย สิ่งเหล่านี้เป็นความตั้งใจที่ควรหวงแหนรักษาเอาไว้ แต่ถึงอย่างนั้นในฐานะที่เป็นผู้ร่วมอุดมการณ์ฝั่งก้าวหน้า ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงขนบเดิม ๆ ระบบเดิม ๆเหมือนกัน ผมเห็นความจำเป็นที่จะต้องมาชวนคิดทบทวนถึงวิถีปฏิบัตินี้กันสักเล็กน้อย
กำเนิดทุนนิยมโลก
ถ้าเราเข้าใจอย่างคร่าว ๆ ว่า ระบบทุนนิยมคือระบบที่รีดเค้นความมั่งคั่งผ่านแรงงาน ในกรณีดังกล่าวเราก็จะเข้าใจได้ว่าระบบนี้เติบโตขึ้นมาอย่างไร และเราก็จะสามารถสืบสาวต้นกำเนิดและวิเคราะห์พัฒนาการอันต่อเนื่องของระบบทุนนิยมในช่วงเวลาที่ผ่านมาได้ การวิเคราะห์เช่นนี้จำเป็นต่อการทำความเข้าใจว่าเราจะตอบโต้ระบบทุนนิยมได้อย่างไรบ้าง โดยการดูว่า ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา การโต้กลับแบบใดบ้างที่ใช้ได้ผล เพื่อให้สามารถเตรียมพร้อมโต้กลับในวิถีทางใหม่ ๆ ได้ในอนาคต
มายาคติของงาน
จะเกิดอะไรขึ้นหากไม่มีใครทำงาน โรงงาน(นรก)ก็คงว่างเปล่า และสายพานการผลิตก็คงหยุดชะงัก อย่างน้อยก็ในกลุ่มที่ไม่มีใครเต็มใจอยากผลิต การขายของทางไกลก็คงสิ้นสุดลง พวกคนน่ารังเกียจที่เอาแต่ครอบงำควบคุมผู้อื่นเพราะมีเงินและตำแหน่งใหญ่โตก็คงต้องฝึกทักษะการเข้าสังคมให้มากขึ้น ไม่มีรถติดและเหตุการณ์น้ำมันรั่วอีกต่อไป ธนบัตรและใบสมัครงานจะถูกใช้เป็นเชื้อเพลิงในกองไฟเมื่อผู้คนหันไปแลกเปลี่ยนสิ่งของหรือแบ่งปันกันแทน ใบหญ้าและดอกไม้จะเติบโตขึ้นจากรอยแยกบนทางเท้า และกลายเป็นต้นไม้ที่ออกดอกผลในที่สุด
ACAB การผูกขาดความรุนแรง และอำนาจรัฐ
“All Cops are Bastards (ตำรวจทุกคนเป็นคนเลว)” หรือคำย่อ ACAB เป็นวลีติดหูในภาษาอังกฤษที่ทั่วทุกมุมโลกใช้ประณามความรุนแรงจากตำรวจ อย่างไรก็ดี วลีดังกล่าวเป็นมากกว่าแค่วลีที่ติดหูเท่านั้น เพราะมันยังมีที่มาที่ลึกซึ้ง ซึ่งเกี่ยวโยงไปถึงอำนาจของรัฐที่เป็นสถาบัน ความรุนแรง และความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ ทุน และกรรมสิทธิ์เอกชน ในการทำความเข้าใจบทบาทที่ แท้จริง ของ ตำรวจ และเหตุผลที่ทำให้ พวกเขาทุกคนเป็นคนเลว เราต้องสำรวจบทบาทของรัฐภายใต้ระบบทุนนิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเกี่ยวข้องกับความรุนแรงและกรรมสิทธิ์เอกชน
วัตถุนิยม
“วัตถุนิยม หรือ จิตนิยม?” คือคำถามพื้นฐาน และข้อถกเถียงที่เป็นรากฐานของวงการปรัชญาในทุกยุคทุกสมัย ข้อถกเถียงดังกล่าวตั้งอยู่บนคำถามที่ว่า ระหว่างวัตถุกับจิตใจนั้น สิ่งใดที่มีความสำคัญมากกว่ากัน หรือสิ่งใดที่กำหนดความเป็นไปของอีกสิ่งหนึ่ง และเมื่อเป็นเช่นนั้น สภาวะที่เราเชิญอยู่นั้นเป็น “ความจริง” หรือไม่ หรือคาามจริงที่ว่านี้ขึ้นอยู่กับการตีความของเรากันแน่? ข้อถกเถียงทางปรัชญาที่ว่านี้ยังขยายไปสู่ฐานความคิดในการมองโลกของทั้งฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา แนวคิดฝ่ายซ้ายส่วนใหญ่มักถูกจัดให้อยู่ในแนวคิดวัตถุนิยม ในขณะที่แนวคิดของฝ่ายขวามักจะอยู่ในแนวคิดแแบจิตนิยม
ความท้าทายของเพลงการเมืองไทยในปัจจุบัน
“มาร่วมกันดันกงล้อประวัติศาสตร์ สู่เอกราชจริงแท้และสดใส จับอาวุธถั่งโถมโหมแรงไฟ เพื่อก้าวไกลแห่งสังคมอุดมการณ์“ บทเพลงนี้คงเป็นที่คุ้นหูคุ้นตาสหายหลายๆคน สำหรับผมแล้ว ถ้าหากว่ามีการจัดอันดับบทเพลงเพื่อชีวิตไทยที่มีเนื้อหาออกซ้ายอย่างชัดเจนที่สุด 5 อันดับ ผมว่าเพลงนี้จะต้องปรากฏในลิสต์อย่างแน่นอน นอกจากนี้ที่มาของเพลงก็ยังคงความขลังเนื่องจากแต่งขึ้นใน ซอกเขาอันลึกลับในเขตการตั้งค่ายของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย หลังเหตุการณ์ 6 ตุลาฯเกิดขึ้นได้ไม่นาน โดยมีแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์เกี่ยวกับการปฏิวัติยูโกสลาเวีย
บาปกำเนิดชนชั้นกลาง
ไม่มีพระผู้ไถ่คนไหนจะมาไถ่บาปกำเนิดนี้ให้ท่านได้
แต่ถ้าท่านได้หลอมรวมตัวเองลงไปในสายธารแห่งการปฏิวัติแล้ว
บาปใดเล่า จะสามารถติดตัวท่าน
การบริโภคอย่างมีจริยธรรม
ไม่มีการบริโภคที่เปี่ยมจริยธรรมภายใต้ระบบทุนนิยม โวหารที่ตรงไปตรงมาดังกล่าวมักจะถูกฝ่ายซ้ายนำมาใช้สร้างความชอบธรรมให้กับการมีส่วนร่วมในโครงสร้างทางสังคมที่โหดร้ายและอยุติธรรม โวหารดังกล่าวโดยแท้แล้วมีความหมายว่า คุณไม่สามารถซื้อหรือบริโภคสิ่งใดได้อย่างมีจริยธรรมในสังคมทุนนิยม เป็นโวหารที่สามารถนำมาต่อยอด วิเคราะห์ และนำไปปรับใช้ได้กับทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ แรงงาน และรัฐบาล เพื่อช่วยให้เข้าใจถึงความอยุติธรรมที่เราทุกคนต่างก็มีส่วนอยู่ทุก ๆ วัน